เมื่อเราก้าวเข้าสู่ยุคของปัญญาประดิษฐ์ (AI) องค์กรต่าง ๆ ต่างแสวงหาวิธีที่จะนำหน้าเกมธุรกิจอยู่ตลอดเวลา เราเห็นข่าวการนำ AI อย่าง Chat GPT ของ OpenAI มาช่วยเราทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและชเติบโตอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมต่างๆ และส่งผลให้ความต้องการ Talent ในองค์กรที่มีความสามารถ ที่สามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยีเหล่านี้ได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน ในบล็อกนี้ เราจะลองสำรวจวิธีที่องค์กรสามารถพัฒนาบุคลากรในยุค AI ให้มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ของธุรกิจในยุคที่เปลี่ยนไป
1.พัฒนาวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง (Culture of continuous learning)
เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงในยุค AI องค์กรจำเป็นต้องส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง พนักงานควรได้รับการสนับสนุนให้เรียนรู้และปรับปรุงทักษะอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับเทรนด์ใหม่ๆ และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่พัฒนาตลอดเวลา ซึ่งสามารถทำได้โดยเสนอทำการฝึกอบรมหรือเทรนนิ่งที่มีอัปเดทความรู้ตลอดเวลา และมีการประยุกต์เนื้อหา หรือ Customized เข้ากับบริบทขององค์กร และการให้สิทธิ์เข้าถึงแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์รูปแบบใหม่ๆ ที่เราเริ่มเห็นในต่างประเทศและประเทศไทยบ้างในช่วงนี้ สนับสนุนให้พนักงานเข้าร่วมการประชุม สัมมนาและกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสาขาของตน
“บริษัทหลายแห่งใช้การเรียนรู้ออนไลน์สำหรับการฝึกอบรมขององค์กร เช่น Walmart, LinkedIn Learning, Udemy, SBA, edX for Business และ Coggno Walmart ร่วมมือกับบริษัทฝึกอบรม VR Strivr เพื่อพัฒนาการฝึกอบรม VR สำหรับพนักงาน ในขณะที่ LinkedIn Learning นำเสนอแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์พร้อมอีเลิร์นนิงและชั้นเรียนออนไลน์ที่น่าสนใจ Udemy เป็นตลาดการเรียนรู้และการสอนออนไลน์ที่มีหลักสูตรมากกว่า 213,000 หลักสูตรและนักเรียน 57 ล้านคน และ SBA ให้บริการโปรแกรมการเรียนรู้ออนไลน์เพื่อเพิ่มศักยภาพและให้ความรู้แก่เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก edX For Business ช่วยให้บริษัทสามารถจัดการโปรแกรมการฝึกอบรมโดยใช้แพลตฟอร์ม edX ในขณะที่ Coggno เป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ชั้นนำสำหรับธุรกิจทั่วโลก”
2.การใช้การ Coaching และ Mentoring
การให้คำปรึกษาและการฝึกสอน (Coaching และ Mentoring) เป็นวิธีที่ดีในการพัฒนาความสามารถในองค์กร ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์สามารถแบ่งปันความรู้และความเชี่ยวชาญกับพนักงานรุ่นใหม่ ที่สามารถแบ่งปันประสบการณ์และชุดความรู้เฉพาะที่ไม่สามารถหาในสื่อออนไลน์ได้ ที่ช่วยให้พวกเขาสร้างทักษะและเติบโตในสายอาชีพได้ โปรแกรมการให้คำปรึกษาและการฝึกสอนอาจเป็นแบบเป็นทางการหรือไม่เป็นทางการ ที่ทางทีม HR สามารถวางแผนเป็นรายคน รายทีม หรือแผนกได้
3.สนับสนุนการทำงานร่วมกันข้ามสายงาน
การทำงานร่วมกันระหว่างแผนกและทีมต่างๆ สามารถช่วยพนักงานในการพัฒนาทักษะใหม่ๆ และเปิดรับความรู้ในด้านต่างๆ ขององค์กร ในยุค AI พนักงานจำเป็นต้องมีความเข้าใจในธุรกิจและการทำงานร่วมกันกับแผนกอื่นๆ อย่างกว้างขวาง การสนับสนุนการทำงานร่วมกันข้ามสายงานสามารถช่วยให้พนักงานพัฒนาความเข้าใจองค์รวมมากขึ้นเกี่ยวกับองค์กรและบทบาทของเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับหลายองค์กร
- ให้การเข้าถึงเครื่องมือและเทคโนโลยี AI
เพื่อพัฒนาความสามารถในยุค AI องค์กรต้องให้การเข้าถึงเครื่องมือและเทคโนโลยี AI สิ่งนี้สามารถทำได้โดยให้ทีมงานทดลองใช้งานซอฟต์แวร์ AI และหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ ว่าสามารถนำมาช่วยงานในองค์กรส่วนไหนได้บ้าง หรือแม้แต่
การลงทุนในเทคโนโลยี AI และทำให้พนักงานสามารถใช้งานได้ การให้สิทธิ์การเข้าถึงเทคโนโลยี AI สามารถช่วยพนักงานสร้างทักษะและได้รับประสบการณ์จริงในการทำงานกับเครื่องมือและเทคโนโลยีล่าสุด
“มีหลายองค์กรที่ใช้ Generative AI ตัวอย่างเช่น Adobe ได้พัฒนาแพลตฟอร์ม Generative AI ที่เรียกว่า Adobe Sensei ซึ่งใช้เพื่อสร้างประสบการณ์ส่วนบุคคลของลูกค้าและการวิเคราะห์ขั้นสูง Microsoft มีเครื่องมือ Generative AI ที่เรียกว่า “Project Cortex” ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรดึงข้อมูลเชิงลึกจากข้อมูลของตน องค์กรอื่นๆ ที่ใช้ Generative AI ได้แก่ Google, IBM, Amazon และ Apple”
5.ส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรม
นวัตกรรมเป็นกุญแจสำคัญในการก้าวไปข้างหน้าในยุค AI องค์กรควรส่งเสริมให้พนักงานเกิดความคิดใหม่ๆ และทดลองแนวทางต่างๆ สิ่งนี้สามารถทำได้โดยการจัดตั้งห้องปฏิบัติการนวัตกรรมหรือเสนอสิ่งจูงใจสำหรับพนักงานที่คิดไอเดียสร้างสรรค์
“20% ใน Project ของ Google ได้รับการยอมรับ ว่าเป็นที่มาในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ชื่นชอบมากมาย เช่น Google Maps, Gmail และ Google News แนวคิดเบื้องหลังโครงการ คือการให้อิสระแก่พนักงานในการใช้เวลาทำงานมากถึง 20% ให้กับโครงการที่พวกเขาต้องการ หรือคิดขึ้นมาเอง วิธีการนี้ช่วยให้พวกเขาสามารถติดตามความคิดสร้างสรรค์และทดลองเทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่บุกเบิก นอกจากนี้ นโยบาย 20% ยังทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมสำหรับพนักงานในการขยายเครือข่าย รับทักษะใหม่ๆ ระหว่างเพื่อนในโปรเจกต์ และบ่มเพาะแนวคิดของตนเอง”
6.จ้างผู้มีความสามารถที่หลากหลาย
ความหลากหลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนาความสามารถในยุค AI ทีมงานที่หลากหลายนำมุมมองและแนวคิดที่หลากหลายมาสู่องค์กร ซึ่งสามารถช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ องค์กรควรแสวงหาและว่าจ้างผู้มีความสามารถจากภูมิหลังที่หลากหลายเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขามีทีมงานที่รอบรู้
“Airbnb จ้างนักมานุษยวิทยาเพื่อทำความเข้าใจวิธีคิดและพฤติกรรมของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการจ้างนักมานุษยวิทยา พวกเขาสามารถได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแรงจูงใจและความชอบของลูกค้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น สิ่งนี้สามารถช่วยให้ Airbnb เข้าใจลูกค้าได้ดีขึ้น สร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับพวกเขา และสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่ประสบความสำเร็จมากขึ้น นอกจากนี้ Airbnb ยังสามารถใช้ข้อมูลเชิงลึกที่ได้รับเพื่อทำความเข้าใจวิธีที่ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันและกับสภาพแวดล้อมของพวกเขา”
7.ยอมรับและให้รางวัลกับความสามารถของคนกลุ่มนี้ (Talent Recognition)
การยกย่องและให้รางวัลแก่ผู้มีความสามารถเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการพัฒนาและรักษาพนักงานในยุค AI องค์กรควรมีระบบเพื่อยกย่องและให้รางวัลแก่พนักงานที่แสดงทักษะและผลงานที่โดดเด่น ซึ่งสามารถทำได้ผ่านโบนัสตามผลงาน โปรโมชัน หรือสิ่งจูงใจอื่นๆ
โดยสรุป การพัฒนาความสามารถในยุค AI ต้องการแนวทางแบบองค์รวมที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การให้คำปรึกษาและการฝึกสอน การส่งเสริมการทำงานร่วมกันข้ามสายงาน การให้การเข้าถึงเครื่องมือและเทคโนโลยี AI การส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรม การว่าจ้างผู้มีความสามารถที่หลากหลาย และการยกย่องและให้รางวัลแก่ความสามารถพิเศษ การนำกลยุทธ์เหล่านี้ไปใช้ องค์กรต่างๆ จะสามารถพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถซึ่งช่วยให้พวกเขานำหน้าในยุค AI ได้