Highlights:
- คนที่มี CREATIVE CONFIDENCE นอกจากจะต้องมีความคิดสร้างสรรค์หรือมีไอเดียแปลกใหม่แล้ว เขายังกล้าที่จะนำเสนอและสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นจริงอีกด้วย
- การรู้จักตัวตนของตัวเอง ความรู้ ความสามารถ และความชอบ หรือ Passion และการพัฒนาทักษะของตนเองทั้งในมุมลึกและมุมกว้าง เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้าง CREATIVE CONFIDENCE ของตัวเรา
- บรรยากาศรอบข้างส่งผลต่อ CREATIVE CONFIDENCE ของตัวเราเช่นกัน บรรยากาศที่ทำให้เรารู้สึกถึง ความปลอดภัย (Safety) และ อิสระ (Freedom) จะสนับสนุนให้เราปลดปล่อยความเป็นตัวเองออกมา
- การที่เรายอมรับต่อคำวิจารย์ คำติชม หรือความเป็นจริงที่เรานั้นยังขาดความรู้หรือทักษะอะไร ผลงานของเราจะทำอย่างไรให้ดียิ่งขึ้น เมื่อเราปรับเปลี่ยนทัศนคติของเราได้ เชื่อได้ว่า คุณจะกล้าปลดปล่อยไอเดียแปลกใหม่ และพัฒนาไอเดียเจ๋งๆ ได้แน่นอน
หลายๆ คนน่าจะเคยได้อ่านหนังสือชื่อ CREATIVE CONFIDENCE ของ David Kelly และ Tom Kelly สองผู้เชี่ยวชาญผู้ให้กำเนิด Design Thinking ที่ Stanford University และผู้ก่อตั้งบริษัท IDEO ประเทศสหรัฐอเมริกา David และ Tom กล่าวว่า “People with CREATIVE CONFIDENCE have a greater impact on the world around them” จากประโยคนี้จะเห็นได้ว่า คนที่มี CREATIVE CONFIDENCE นอกจากจะต้องมีความคิดสร้างสรรค์หรือมีไอเดียแปลกใหม่แล้ว เขายังกล้าที่จะนำเสนอและสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นจริงอีกด้วย
CREATIVE CONFIDENCE จึงเปรียบเปรยได้ถึง ความมั่นใจในการคิดของตนเองและกล้าที่จะนำเสนอความคิดของตนเองออกมาอย่างมั่นใจ ซึ่งรวมถึงการนำไอเดียนั้นๆ ไปสร้างให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม ออกเป็นผลงานหรือเป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจริง คนที่มี CREATIVE CONFIDENCE จะกล้านำเสนอไอเดียใหม่ๆของตนเอง แม้ว่าจะเป็นไอเดียที่ใช้ได้จริง หรือใช้ไม่ได้ก็ตาม เขาจะกล้าเป็นรับฟังคำวิจารย์ของผู้อื่น และนำสิ่งเหล่านั้นไปพัฒนาเพื่อให้ ไอเดียหรือผลงานของเขาดียิ่งขึ้น และสุดท้ายเขาจะจดจ่อกับผลงานของตนเองจนออกมาเป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จ
เพราะฉะนั้นเราจะเห็นได้ว่าจุดเริ่มต้นคือความกล้า กล้าที่จะแสดงออก กล้าที่จะพูดในสิ่งที่แตกต่างออกไป คำถามก็คือ เราจะมี CREATIVE CONFIDENCE ได้หรือไม่ และจะมีได้อย่างไร ข่าวดีข้อแรก คือ
“Creativity is something you practice, not just a talent you’re born with.” David Kelley and Tom Kelley
หรือความคิดสร้างสรรค์คือสิ่งที่คุณสามารถฝึกฝนได้ และข่าวดีข้อที่สอง คือ วันนี้พวกเรา BASE PLAYHOUSE จึงขอย่อยงานวิจัยและประสบการณ์ที่เราฝึกทักษะด้านความคิดสร้างสรรค์ให้กับทั้งคนรุ่นใหม่ และพนักงานบริษัท ออกมาเป็น 5 วิธีง่ายๆ ในการเสริมสร้าง CREATIVE CONFIDENCE ในตัวคุณ
1. ทำความรู้จักตนเอง
จุดเริ่มต้นของทุกความมั่นใจคือ การที่เรารู้จักตนเอง รู้ว่าตัวเรามีความรู้และความสามารถอะไร รู้ว่าเราหลงไหลหรือชื่นชอบเรื่องใดเป็นพิเศษ รู้ว่าเราชอบทำอะไรในเวลาว่าง เพราะสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดคือตัวตนของเรา สิ่งเหล่านั้นคือความเชี่ยวชาญของเรา คุณต้องยอมรับความจริงก่อนว่า เราไม่สามารถรู้หรือเก่งไปได้ซะทุกเรื่องและความคิดสร้างสรรค์หรือไอเดียของเราก็เช่นกัน ความรู้ ทักษะ หรือประสบการณ์ ล้วนเปรียบเสมือนวัตถุดิบในการที่เราจะนำมาใช้คิดสร้างสรรค์ไอเดียอะไรสักอย่างหนึ่ง แปลว่าหากเราไม่มีไอเดียในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ไม่ใช่เราไม่เก่งหรือไม่มีความคิดสร้างสรรค์ แต่เราอาจจะไม่ถนัดหรือมีความรู้ไม่พอในเรื่องนั้นต่างหาก
2. พัฒนาความรู้และทักษะเพิ่มเติม
เมื่อเรารู้แล้วว่าเราเก่งอะไร เรามีความรู้และความสามารถอะไร หากเราต้องการที่จะเก่งขึ้นในเรื่องนั้นๆ หรือว่าต้องการเก่งในเรื่องที่เป็นวงกว้างมากขึ้น สิ่งที่ทำง่ายที่สุดก็คือ การพัฒนาความรู้และทักษะเพิ่มเติม อาทิเช่น การอ่านหนังสือ การดูคลิปจาก Influencer คนดัง การเข้าคอร์สเรียนวิชาที่ไม่เคยเรียน และการไปท่องเที่ยวหรือเปิดประสบการณ์ในที่ใหม่ๆ เป็นต้น การพัฒนาความรู้และทักษะเพิ่มเติมเปรียบเสมือนการเพิ่มวัตถุดิบให้เราสามารถนำไปหยิบใช้ได้เยอะขึ้น และทำให้เรามีความมั่นใจในเรื่องที่เราเชี่ยวชาญมากขึ้นนั่นเอง
3. หาสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนความคิดสร้างสรรค์
ปัจจัยภายนอกที่สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อ CREATIVE CONFIDENCE หรือความมั่นใจในความคิดสร้างสรรค์ของเราก็คือสภาพแวดล้อม ที่เราอยู่ ณ ขณะนั้น สภาพแวดล้อมในที่นี้เรากล่าวรวมตั้งแต่ สถานที่ ของตกแต่ง บรรยากาศ คนหรือกลุ่มคน และสิ่งมีชีวิตที่ส่งผลกระทบต่อเราในบริเวณนั้น ยกตัวอย่างเช่น ในห้องเรียนคาบวิชาสังคมที่ห้องเรียนเงียบและเย็นเฉียบ และมีอาจารย์ที่น่ากลัวท่านหนึ่งกำลังสอนหนังสืออยู่ หรือจะเป็นในสวนสาธารณะที่มีอากาศปลอดโปร่งเย็นสบายมีเสียงนกบินไปมา เป็นต้น สภาพแวดล้อมที่สนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ นั้นมีลักษณะพิเศษอยู่ 2 อย่างคือ ความรู้สึกปลอดภัย (Psychological Safety) และอิสระ (Psychological Freedom) “ความรู้สึกปลอดภัย” ในที่นี้แปลว่าเรารู้สึกได้ว่า หากเราพูดหรือทำอะไรผิดพลาดไป จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราจะไม่โดนลงโทษจากเหตุการณ์นั้น ส่วนคำว่า “ความรู้สึกมีอิสระ” หมายความว่า เราจะไม่โดนบังคับหรือชักจูงให้เลือกหรือนำเสนอความคิดอะไรที่ไม่ใช่ตัวเรา เรารู้สึกว่าเรามีอิสระทางความคิดและการกระทำ หากเราอยู่ในสถานที่ที่มีลักษณะแบบนี้แล้วหละก็ เราจะกล้าปลดปล่อยได้ไอเดียแปลกๆใหม่ๆ โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะตำหนิ และไม่ต้องตามใคร ออกมาแน่นอน
4. ยอมรับกับความคิดเห็นที่แตกต่าง
การยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างเป็นวิธีหนึ่งในการสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นบริเวณรอบตัวเรา เมื่อเรายอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างพฤติกรรมของเราที่ตามมาก็คือ การรับฟังอย่างตั้งใจ และการไม่ตัดสินความคิดของคนอื่น ผลที่ตามมาคือบุคคลรอบข้างของเราสามารถสร้างสรรค์ไอเดียออกมาได้อย่างเต็มที่ และเปิดโอกาสให้เราและเพื่อนๆ ได้ต่อยอดไอเดียซึ่งกันและกัน ทำให้เกิดเป็นไอเดียเจ๋งๆ ออกมาอย่างไม่คาดคิด นอกจากนี้การรับฟังอย่างตั้งใจนี้จะช่วยให้เราได้เรียนรู้แนวคิดใหม่ๆ สามารถพัฒนาความรู้และทักษะของตนเองเพิ่มเติมอีกด้วย
5. คุ้นเคยกับความล้มเหลว
สิ่งสำคัญที่สุดในการสร้างการเปลี่ยนแปลงหรือสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ คือการลงมือทำและคุ้นเคยกับความล้มเหลวเพื่อทำให้เราได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะ พัฒนาไอเดียและผลงานจนกระทั่งประสบความสำเร็จ ปกติคนเรามักจะกลัวความล้มเหลว มองว่าการล้มเหลวนั้นน่าอาย คิดว่าเมื่อเราล้มเหลวจะโดนทุกคนดูถูกดูแคลน แต่เราไม่เคยรู้เลยคนที่ประสบความสำเร็จ และโด่งดังทั่วโลกผิดพลาดและล้มเหลวมาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน โดนวิจารย์มาเยอะแยะ แต่ทัศนคติที่เค้ามีต่อความล้มเหลวและคำวิจารย์นั้นคือ “การเรียนรู้” เราสามารถเรียนรู้ได้ว่าเรายังขาดความรู้และขาดทักษะอะไรเพื่อให้เราไปถึงเป้าหมายที่เราตั้งไว้ หากเราไม่กล้าที่จะเริ่มต้นแล้วนั้น หากเราล้มเลิกกลางคัน แล้วเมื่อไหร่ เราจะสร้างการเปลี่ยนแปลงและประสบความสำเร็จได้หละ
จาก 5 วิธีการเสริมสร้าง CREATIVE CONFIDENCE นี้ เราเชื่อว่าหากเราได้ลองฝึกฝน เรียนรู้ และพัฒนาตามวิธีข้างต้นนี้ เราจะเรียกได้ว่า เราเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ เราสามารถนำเสนอไอเดียที่แตกต่างอย่างมั่นใจ และเราจะเป็นคนที่โดดเด่นกว่าคนรอบข้างอย่างแน่นอน
โอกาสดี ๆ สำหรับการสร้าง “CREATIVE CONFIDENCE” ในตัวคุณและองค์กรมาถึงแล้ว
ที่ BASE Playhouse เราได้ออกแบบคอร์ส Creativity in Action และ Design Thinking and Innovation หนึ่งในทักษะ 21st Century Skills ที่จำเป็นสำหรับทุกคนในยุก Digital Disruption เพื่อสร้างทักษะในการคิดสร้างสรรค์ สร้างความมั่นใจในความคิดของตนเอง เกิดการถกกันเพื่อให้ได้ไอเดียใหม่ๆ ที่ดีที่สุดสำหรับตนเอง ทีม และองค์กร สร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นรอบตัว และพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนในทุกสถานการณ์ ที่ BASE Workplace เราสร้างการเรียนรู้และฝึกทักษะ “ความคิดสร้างสรรค์” ผ่านกิจกรรมอันหลากหลาย ผสมผสานกับรูปแบบของเกม (Gamification) ซึ่งรับรองได้ว่า ทุกคนจะได้ฝึกทักษะความคิดสร้างสรรค์อย่างสนุกสนาน และกลับไปพร้อมความมั่นใจ ว่าฉันนี่แหละ “เป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์”
“You are not limited to only what you have been able to do before.”
-Tom Kelley-